h2.post-title{ font-size:18px;}

5/10/2556

Paardenbloemen eten? กินดอกหญ้ากันไหม?

ชิ ชะ คันไม้คันมือมานาน ขอแจะๆจิ้มๆหน่อยเหอะวันนี้ ก็ร้างราไปเรียนอะไรเพิ่มเติมมาซะเกือบสองปี ตอนนี้เรียนใกล้จะจบแล้ว หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าไปเรียนอะไรเพิ่มเติมอีกหละยัย"แม่มด" ก็คุณชายที่บ้านเค้าเห็นว่าอิฉันอยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียวกลัวว่าจะเสียเวลาเกินไป เลยหาเรื่องส่งเมียไปเรียนจัดดอกไม้ซะ อันที่จริงอิฉันชอบปลูกต้นไม้ ทำสวนหย่อม ปลูกผักสวนครัวมากกว่าการจัดดอกไม้นะ อยู่เมืองไทยก็ไม่เคยจัดดอกไม้เลย ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงด้วยซ้ำไป คุณชาย(สามี)เค้าไม่ได้ส่งอิฉันไปเรียนจัดดอกไม้(ภาคปฏิบัติ)อย่างเดียวนะ ดั๊นส่งเราไปเรียนภาคทฤษฎีอีก คอร์สนึงก็ปาเข้าไปสองปี เข้าเรียนวันแรกเริ่มเรียนกันแค่สองคน มีอิฉัน(คนไทย)กับสาวรัสเซียอีกคนนึง แต่ก็มีคนมาสมัครเพิ่มเติมเรื่อยๆจนเป็นสิบคน แต่ระหว่างเรียนก็ลาออกไปอีก จนกระทั่งถึงเวลาสอบเหลือกันอยู่หกคน สาวไทยใจกล้าอย่างอิฉันก็ถึกและบึกบึนทนเรียนมาจนถึงทุกวันนี้ ณ ขณะนี้เหลือสอบภาคปฏิบัติใหญ่อีกในเดือนมิถุนายน 2013 ซึ่งหากสอบผ่าน ก็สามารถทำงานตามร้านดอกไม้ต่างๆได้ทั้งในและต่างประเทศ(ถ้าเค้ารับเราเข้าทำงานเหอๆ ๆ)


การเรียนภาคทฤษฎีในการจัดดอกไม้ของประเทศเนเธอร์แลนด์นี้ ก็ต้องใช้ภาษาดัตช์ล้วนๆ เรียนไปก็มึนไปแต่สุดท้ายก็สอยใบประกาศภาคทฤษฎีมาครอบครองไว้ได้ ฮิๆ


กินดอกหญ้าเอาหละโม้เรื่องเรียนมาเยอะละ ขอเข้าสาระเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาดัตช์ซะหน่อย เดือนพฤษภาคมนี้มันยังเป็นช่วง voorjaar (ฟอรฺ-ยารฺ) หรือ lente (แลนเตอะ) หรือช่วงใบไม้ผลินั่นเอง จะเห็นว่ามีดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอก ออกผล ตามข้างถนนเราจะเห็นดอกหญ้าสีเหลืองๆ ซึ่งชูก้านยาวบ้าง สั้นบ้างแล้วแต่สภาพความสมบูรณ์ของดิน ไอ้ต้นดอกหญ้าอันนี้เรียกว่า Paardenbloem ขึ้นชื่อว่าดอกหญ้าก็ควรจะไปงอกงามให้ดงหญ้า ไม่ใช้ในสวนหย่อมของอิฉัน ถ้าเห็นว่ามันเริ่มมีใบงอกออกมาในสนามหญ้าและสวนหย่อม อิฉันต้องรีบจัดการถอนรากถอนโคนออกให้เกลี้ยงแล้วก็โยนให้น้องกระต่ายกิน น้องกระต่ายชอบกินดอกไม้ชนิดนี้มากคะ นอกจากกระต่ายจะกินได้แล้ว คนยังกินดอกไม้และใบของมันได้อีกด้วยนะคะ

เจ้า paardenbloem นี้มีสรรพคุณเป็นยาคะ พอรู้อย่างนี้แล้วอิฉันก็เลยรีบแจ้นไปบอกสามีว่าจะทำอาหารจากเจ้าดอกหญ้านี้ให้กิน สามีทำหน้าตาเหยเก ประมาณว่า "เธอไม่มีอะไรจะกินแล้วเหรอ ถึงขนาดจะเอาหญ้ามาให้ฉันกิน ฉันไม่ใช่วัวนะ" มดไม่ได้มั่วนะ เนี่ยก็เค้าเขียนไว้ในหนังสือ Landleven 18e jaargang nr.4



Paardenbloemen eten?

Paardenbloemen eten is minder ongebruikelijk dan u misschien zou denken. Toen groente in het voorjaar nog schaars was en iedere vitamine het najagen waard, werd de paardenbloem veel gegeten. Na de lange winter waren paardenbloembladeren het eerste eetbare groen in het voorjaar. Met groenkoeken, pannenkoeken met paardenbloemblad, kregen onze voorouders hoognodige voedingsstoffen binnen. Paardenbloemen zijn rijk aan betacaroteen en vitamine C, zitten vol vezels en bevatten ijzer en calcium. Vroeger werden vooral de bladeren gebruikt. Het blad heeft een bittere smaak, daarom gingen onze voorouders op zoek naar molsla. Dit is paardenbloemblad dat onder het zand van een molshoop terecht is gekomen en daardoor gebleekt is. Het blad is dan veel milder van smaak.

จากบทความนี้เค้าพูดถึงว่า การกิน paardenbloem นี้พบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด ดังเช่นสมัยก่อนตอนช่วงที่พืชผักในช่วงฤดูใบไม้ผลิยังมีไม่มากนัก ทำให้ paardenbloem ถูกนำมาบริโภคกันอย่างมาก เพื่อเป็นการทดแทนวิตามินที่หาได้ยากในสมัยนั้น หลังช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานหรือพูดง่ายๆก็คือ ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ (het voorjaar)ใบของpaardenbloem (paardenbloemblad)เป็นพืชผักที่จะโผล่ออกมาให้คนได้กินเป็นชนิดแรก คนสมัยก่อนจะได้รับสารอาหารจาก paardenbloem ในรูปของ groenkoeken และ pannenkoeken เป็นต้น Paardenbloemen มีสารเบต้าแคโรทีนและวิตามินซีสูงมาก นอกจากนี้ยังมีกากใย ธาตุเหล็ก และแคลเซียมอีกด้วย ใบของpaardenbloemenจะมีรสชาติขม ทำให้คนสมัยก่อนต้องออกเสาะหา molsla นั่นคือใบของPaardenbloemenที่โผล่ออกมาเหนือเนินทรายที่อยู่ปากหลุมของตัวตุ่น ซึ่งใบจะมีสีซีดกว่าปกติ ทำให้มีรสขมน้อยลงตามไปด้วย

หลังจากอ่านบทความนี้ให้สามีฟัง เค้าก็ทำท่าเออ-ออกับเราไปด้วย แต่จะกินหรือไม่นั้นก็ยังมิทราบ อิฉันต้องไปตามล่าหาดอกและใบPaardenbloemenก่อนนะ ถ้าทำแล้วรสชาติดีจะเอามาโม้ให้ฟังในตอนต่อไปนะจ๊ะ

 

SEO

ASR

Free counter and web stats